QR Code

ต้นเม็ก ผักเม็ก หรือสเม็ดแดง

รหัสพันธุ์ไม้ 8-6310204-05-024

 

ชื่อวิทยาศาสตร์ Syzygium gratum (Wight) S.N.Mitra var. gratum

ชื่อวงศ์ Myrtaceae

ชื่ออื่น ๆ ผักเสม็ด, ผักเม็ก (นครราชสีมา); ไคร้เม็ด (เชียงใหม่); เม็ก (ปราจีนบุรี); เม็ดชุน (นครศรีธรรมราช); เสม็ด (สกลนคร, สตูล); เสม็ดเขา, เสม็ดแดง (ตราด); เสม็ดชุน (ภาคกลาง); ยีมือแล (มลายู – ภาคใต้)

ผักเม็ก หรือเสม็ดแดง มีชื่อท้องถิ่นหลายชื่อเช่น เม็ก หรือต้นไคร้เม็ด เป็นไม้ยืนต้นสูงได้ถึง 7 เมตร เป็นพืชที่สามารถพบในป่าดิบแล้งโดยเฉพาะบริเวณชายฝั่ง มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภาคพื้นสมุทร ได้แก่ หมู่เกาะสุมาตรา ชวา และเกาะบอร์เนียว พบขึ้นตามป่าธรรมชาติทุกภาคของประเทศไทย ออกดอกสีขาวเป็นช่อๆ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน ยอดอ่อนเสม็ดแดง สามารถนำมารับประทานได้ มีรสเปรี้ยวอมฝาด นิยมลวก และกินสดกับน้ำพริก กินเป็นยาขับลม ทั้งยังเป็นสมุนไพร แก้ฟกช้ำ บวม ปวดเมื่อย เเละปวดฟัน  โดยมีความเชื่อกันว่าจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง คอยป้องกันภัยให้กับคนในบ้าน  เชื่อกันว่าต้นเม็กเป็นที่สิงสถิตของรุกขเทวดา หรือเทพชั้นสูง จะล่วงเกินหรือลบหลู่ไม่ได้เด็ดขาด อีกทั้งยังช่วยให้บ้านหลังนี้ มีแต่ความร่มเย็นเป็นสุขด้วย เหมาะสำหรับปลูกเป็นไม้ประดับในบ้าน เพราะมีทรงพุ่มสวย ต้นอายุน้อยใช้ปลูกในสวนสมุนไพร ลำต้นที่มีอายุมากใช้ประดับสวน มีผิวที่สวยโดดเด่น ให้ร่มเงาในบ้าน แข็งแรง ดูแลง่าย สามารถเพาะพันธุ์จากเมล็ด และขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่ง

ควรปลูกไว้บริเวณใดของบ้าน

เนื่องจากต้นผักเม็ก เป็นไม้ยืนต้นที่มีขนาดกลาง สูงได้ถึง 7 เมตร จึงไม่ควรปลูกไว้ใกล้ชิดกับตัวบ้าน หากจะปลูกต้องมีบริเวณบ้านกว้างพอสมควร และควรปลูกเป็นแนวรั้วรอบบ้าน       

ลักษณะทั่วไป

  • ลำต้น
    เป็นไม้ยืนต้น ไม่ผลัดใบ ขนาดกลางมีความสูงโดยทั่วไป 7 เมตร สามารถสูงได้ 10-15 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มกลม เปลือกสีน้ำตาลแดง แตกสะเก็ดแผ่นบางๆ โคนต้นที่มีอายุมากมักเป็นพูพอน มีสีน้ำตาลแดงเปลือกบางซ้อนกันเป็นชั้น ๆ แตกกิ่งก้านสาขาโดยรอบพุ่มต้น  กิ่งอ่อนเป็นสี่เหลี่ยม
  • ใบ
    เป็นใบประกอบแบบขนนก เรียงเป็นคู่ตรงข้ามกัน ใบย่อยรูปหอกมี 2-4 คู่ ขอบใบเรียบปลายใบมีลักษณะแหลม ใบอ่อนมีสีน้ำตาลอมชมพู ส่วนใบแก่มีสีเขียวเข้มเป็นมัน ดอกช่อเล็ก ๆ ที่บริเวณปลายยอด เป็นใบเดี่ยว รูปรีแกมรูปใบหอก ออกตรงข้ามปลายใบเรียวแหลม โคนใบสอบ ยอดอ่อนมีสีแดงเรื่อ
  • ดอก
    มีสีขาวถึงสีเหลืองอ่อน ออกเป็นช่อแบบช่อกระจุกแยกแขนงตามปลายกิ่งและซอกใบ ช่อดอกยาว 8-12 ซม. ดอกไม่มีก้านดอก ฐานรองดอกรูปถ้วย ปากแคบ ขนาด 4-10 มิลลิเมตร กลีบเลี้ยง 5 แฉก กลีบดอก 5 กลีบ มีเกสรตัวผู้จำนวนมาก ยาว 5-10 มิลลิเมตร มักมีดอกดกและดอกบานพร้อมกัน ออกดอกเดือน มีนาคม-เมษายน
  • ผล
    มีสีขาว สีขาวขุ่น ทรงกลมขนาดเล็ก ขนาด 8-12 มม. มีเนื้อเมล็ดเดี่ยว ที่ก้นของผลส่วนใหญ่มีลักษณะนูนขณะยังอ่อนสีเขียวและเมื่อแก่จัดสีขาวโพลน ติดผลดกเป็นพวง ผลรสหวาน ออกผลเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ให้บรรยากาศสวยงาม

 

ค้นจากเว็บไซด์ ค้นเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2565 https://kaset.today/%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%98%e0%b8%b8%e0%b9%8c%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%89/%e0%b8%95%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%82%e0%b9%88%e0%b9%80%e0%b8%99%e0%b9%88%e0%b8%b2/

 

จัดทำโดย  งานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชฯ อบต.ตูมใหญ่ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2565